ทำความรู้จักสินเชื่อรถยนต์แต่ละประเภทก่อนตัดสินใจ จะได้ไม่พลาด

สินเชื่อรถยนต์ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความเกี่ยวข้องกับรถยนต์ ที่ทางสถาบันการเงินและผู้ให้บริการด้านการเงินอย่างธนาคารมีให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อรถยนต์คันใหม่แต่ไม่มีเงินก้อนที่เพียงพอจะจ่ายซื้อรถด้วยเงินสด จึงต้องขอยืมเงินจากธนาคารไปซื้อรถก่อนแล้วจึงค่อยผ่อนคืน สินเชื่อรถยนต์ ประเภทนี้จะเรียกว่า สินเชื่อรถยนต์ แบบเช่าซื้อ นอกจาก สินเชื่อรถยนต์ ประเภทนี้แล้วก็ยังมี สินเชื่อรถยนต์ อีกหนึ่งประเภทที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือ สินเชื่อรถยนต์จากไฟแนนซ์ ที่เป็นเหมือนการกู้ยืมโดยการนำรถที่เรามีอยู่แล้วมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ในกรณีที่เราต้องการใช้เงินก้อนฉุกเฉินนั่นเอง

แล้วแต่ละประเภท แตกต่างกันในด้านใดบ้าง เรามาศึกษาไปพร้อมๆ กัน

สินเชื่อรถยนต์ ประเภทเช่าซื้อ อย่างที่ได้เกริ่นไปว่าเป็นสินเชื่อที่ทางสถาบันการเงินให้สำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนไปซื้อรถยนต์คันใหม่ หรือคนที่ไม่สะดวกจะจ่ายค่ารถยนต์เป็นเงินก้อน จึงจะเกิดเป็นทางเลือกนี้ขึ้นมาเพื่อให้เราสามารถซื้อขายด้วยเงินดาวน์ แล้วจึงค่อยผ่อนชำระส่วนที่เหลือแบบแบ่งจ่ายเป็นงวดโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายให้จบภายในครั้งเดียว เมื่อเราผ่อนชำระให้ธนาคารหมดเรียบร้อยตามที่สัญญาแล้วกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถก็จะเป็นของเรา สินเชื่อรถยนต์ ประเภทนี้มีประโยชน์ตรงที่ว่าเราสามารถซื้อรถยนต์คันใหม่ที่ต้องการได้โดยไม่จำเป็นจะต้องทำงานเก็บเงินก้อนเพื่อมาจ่ายในทีเดียว ทั้งยังมีอัตราดอกเบี้ยที่คงที่ให้เราผ่อนชำระได้อย่างสบาย ไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินอื่นๆ และมีเวลาที่นานอีกด้วย ทั้งนี้ ก็มีข้อเสียอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของตัวเราเองทั้งสิ้น ว่าจะสามารถรับผิดชอบและผ่อนชำระคืนได้ตามครบกำหนดสัญญาหรือไม่ ถ้าไม่สามารถทำได้ รถก็อาจจะถูกยึดทันที และเราก็จะไม่ได้รับค่างวดที่ชำระไปแล้วคืนด้วย เพราะฉะนั้น เราจึงควรตัดสินใจให้ดี วางแผนและศึกษารายละเอียดให้รอบคอบทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ตามมาในภายหลัง

สินเชื่อรถยนต์ สำหรับเจ้าของรถที่ต้องการเงินก้อนฉุกเฉิน ความหมายก็ตรงตามชื่อ คือเมือ่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา มีเดหตุจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ไม่รู้จะหาจากที่ไหนได้ ถ้าเราเป็นคนที่มีรถยนต์อยู่แล้ว ก็สามารถนำมาแลกเงินสดที่ต้องการได้จากสถาบันการเงินและธนาคารผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ อย่างไรก็ตาม รถยนต์ที่จะนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันนั้นจะต้องเป็นรถยนต์ที่ปลอดภาระทางการเงินใดๆ แล้ว ควรเป็นรถยนต์ที่ไม่มีค่างวดค้างชำระเหลืออยู่ จึงจะผ่านเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติ และสินเชื่อรถยนต์ประเภทนี้ก็มีทั้งแบบโอนเล่มและแบบไม่โอนเล่ม ทั้งสองจะต่างกันตรงที่การโอนกรรมสิทธิ์ให้กับทางผู้ให้บริการ แต่สุดท้ายทั้งสองแบบก็มีหลักการง่ายๆ เหมือนกัน ก็คือ เรานำรถไปขอแลกเป็นเงินสด และสุดท้ายเราก็ต้องผ่อนชำระค่างวดคืนให้ครบตามกำหนดบนสัญญา ถ้าไม่สามารถทำได้ก็อาจจะโดนยึดรถไปนั่นเอง